Wednesday 2 October 2013

แถลงข่าวจัดงานคิดส์ คัฟเวอรี่ เวิล์ด


เมื่อเร็วๆ นี้ คุณพรพรรณ บูลเนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วย คุณชนิดา อินทรวิสูตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักลูกกรุ๊ป จำกัด คุณนิคม เลิศมัลลิกาพร ประธานกรรมการ บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. กรุ๊ป และคุณภาสวรรณ จันทร์คู่ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมแถลงข่าวความพร้อมจัดงานมหกรรมของเล่นและนิทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย คิดส์ คัฟเวอรี่ เวิล์ด ตอน Tales & Toys ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม 2556 ณ อาคาร 3-4 ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ให้เป็นดินแดนสำหรับเด็กๆ ได้รับความสุขสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ ก่อนขยายการจัดงานไปยัง 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี และสุราษฎร์ธานี โดยได้รับความสนใจจากดารานักแสดง เอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน และน้องๆ ดารานักแสดงเด็กร่วมงานจำนวนมาก
สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
โทร.0-2833-5061/ 5077
(จินตนา / สุภาพร)

Saturday 31 August 2013

อิมแพ็คฯแต่งตั้งให้กสิกรไทย และเมย์แบงก์ กิมเอ็งเป็นที่ปรึกษาและผู้จัดการการจัดจำหน่ายกองรีทส์อิมแพ็คโกรท มูลค่าร่วม20,000 ล้านบาท

อิมแพ็คฯแต่งตั้งให้กสิกรไทย และเมย์แบงก์ กิมเอ็งเป็นที่ปรึกษา
และผู้จัดการการจัดจำหน่ายกองรีทส์อิมแพ็คโกรท
มูลค่าร่วม20,000 ล้านบาท
 เป็นกองแรกของประเทศไทย
อิมแพ็คฯยื่นคำขอจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เป็นกองแรกของประเทศไทย มูลค่าร่วม20,000 ล้านบาท โดยให้กสิกรไทย และเมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นที่ปรึกษาและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วมคาดเสนอขายให้นักลงทุนในช่วงไตรมาสสี่ของปีนี้หวังนำเงินไปพัฒนาเพิ่มเติม ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค
 
นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า "เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ยื่นคำขอจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITที่ผู้ลงทุนในกองรีทส์นั้นจะได้รับผลตอบแทนอย่างดีเยี่ยมและเปรียบเสมือนเป็นเจ้าของทรัพย์สินในศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เช่นกัน
"ประโยชน์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITนั้นมีหลายประการรวมถึงกองทรัสต์จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล  ทั้งนี้กองทรัสต์ฯจะทำการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เป็นประจำทุกปี" นายอนันต์ กล่าว
 
“เราจะดำเนินการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยกลุ่มบริษัทบางกอกแลนด์จะยังคงกลับมาลงทุนในฐานะผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตราร้อยละ 50ของหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายทั้งหมดซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของทรัพย์สินที่กองรีทส์จะทำการลงทุน พร้อมทั้งมอบหมายให้บริษัทอิมแพ็คฯ ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารทรัพย์สินเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาทางบริษัทอิมแพ็คฯ ได้ทำหน้าที่บริหารโครงการได้อย่างโดดเด่น ซึ่งทำให้โครงการอิมแพ็คฯ เป็นโครงการศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้าอันดับหนึ่งทั้งในประเทศไทย และในระดับอาเซียน พร้อมทั้งดำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการอิมแพ็คฯทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความทันสมัยและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการในโครงการฯ ได้เป็นอย่างดีและในปีนี้บริษัทฯคาดว่าโครงการอิมแพ็คจะสร้างรายได้ประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาก”
 
นายอนันต์กล่าวว่า  “ผมยังรู้สึกภาคภูมิใจที่บริษัทอิมแพ็คฯเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทในประเทศไทยที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมด ทั้งที่ดิน และอาคารต่างๆ ของโครงการอิมแพ็คฯโดยที่บริษัทอิมแพ็คฯไม่มีหนี้เงินกู้แต่อย่างใด กล่าวได้ว่าเป็นบริษัทฯที่ปลอดหนี้อย่างสมบูรณ์  ทำให้เรามั่นใจว่าผู้ลงทุนจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินทั้งที่ดินและตัวอาคารในทุกๆ ปี”
 
“การจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ ถือเป็นวิสัยทัศน์ในระยะยาวของบริษัทอิมแพ็คฯ ในการเตรียมความพร้อม ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่การเปิดตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งทางบริษัทฯมีความต้องการที่จะขยายการลงทุนในศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้าเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น และบริษัทฯตั้งใจจะพัฒนาให้โครงการอิมแพ็คเป็นส่วนหนึ่งในความภาคภูมิใจของประเทศไทย
 
การจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้นับว่าเป็นการดำเนินการที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างได้รับประโยชน์ และนับเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจมากแก่นักลงทุน”นายอนันต์ กล่าวสรุป
 
นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนเจนเม้นท์ จำกัด ได้แต่งตั้งให้ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย ปฎิบัติหน้าที่เป็นทรัสตี ให้แก่กองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (IMPACT Growth Real Estate Investment Trust) มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่จะออกเสนอขายแก่นักลงทุนเป็นกองแรกในประเทศไทย
 
กองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยทรัสต์ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันภายในประเทศ ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ และผู้ลงทุนรายย่อย ผ่านธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประมาณไตรมาสสี่ของปี 2556 ธนาคารมีความมั่นใจว่าการเสนอขายหน่วยทรัสต์สำหรับกองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากมีรูปแบบการลงทุนที่มีความคล้ายคลึงกับการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ซึ่งนักลงทุนรู้จักและเข้าใจเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
 
นายธีรนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT:Real Estate Investment Trust) เป็นทางเลือกการลงทุนรูปแบบใหม่ในประเทศไทยโดยการนำทรัพย์สินมาจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำมาใช้แทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดิม โดยรูปแบบการลงทุนของกองทรัสต์นั้น มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นรูปแบบที่มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การไม่กำหนดประเภทของทรัพย์สินที่กองทรัสต์สามารถลงทุนได้ รวมถึงรูปแบบการกำกับดูแลที่มีความเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับรูปแบบของการลงทุนให้เหมือนกับประเทศอื่นๆ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยกองทรัสต์จะทำการระดมทุนจากผู้ลงทุน เพื่อนำเงินที่ได้ไปซื้อ/เช่าทรัพย์สิน เมื่อทำการซื้อ/เช่าทรัพย์สินแล้วกองทรัสต์ก็จะเปรียบเสมือนกองทรัพย์สิน โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่ได้จ่ายเงินลงทุนครั้งแรก เมื่อจัดตั้งกองทรัสต์แล้วเสร็จก็จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าว ตามสัดส่วนของหน่วยทรัสต์ที่ถือ โดยมีผู้จัดการกองทรัสต์ทำหน้าที่ในการนำสินทรัพย์นั้นไปหาประโยชน์โดยการให้เช่า/ให้บริการ เมื่อกองทรัสต์ได้รับผลกำไรก็จะนำไปจ่ายปันผล โดยทาง กลต. ได้กำหนดให้จ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิของแต่ละปีให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยในปัจจุบันกองทรัสต์ที่สามารถออกและเสนอขายนั้นมีเพียงประเภทเดียวคือ กองทรัสต์ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ทั้งนี้การลงทุนในรูปแบบของกองทรัสต์ยังคงรักษาประโยชน์ที่สำคัญสำหรับนักลงทุน คือ ไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเหมือนกับการลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้มีทางเลือกในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้หลากหลายมากขึ้น ในขณะเดียวกันนักลงทุนก็จะมีความมั่นใจในการได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงภายใต้การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของผู้เชี่ยวชาญ”
 
“การจัดตั้งกองรีทส์ให้สมบูรณ์ได้นั้น องค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การจัดให้มีผู้ดูแลผลประโยชน์หรือ ทรัสตีสำหรับกองรีทส์ ซึ่งในครั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด มีความพร้อมที่จะปฎิบัติหน้าที่การเป็นทรัสตีอย่างเต็มกำลัง โดยในปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการขออนุญาตจากสำนักงาน กลต.
นายธีรนันท์ กล่าวเสริม
 
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จะลงทุนในกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สิน (Freehold) ในศูนย์จัดการแสดอิมแพ็คอารีน่า (IMPACT Arena) ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติรวมถึงสถานที่สำหรับจัดงานในร่ม (IMPACT Exhibition Center) ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม (IMPACT Forum) พร้อมทั้งอาคารจอดรถ P2 และอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ (IMPACTChallenger)  ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติอันดับหนึ่งของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีความมั่นคงของธุรกิจและมีรายได้อย่างต่อเนื่อง
 
ทั้งนี้ หลังจากที่กองรีทส์อิมแพ็คโกรทลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวแล้วบริษัทอิมแพ็คฯ จะทำหน้าที่เป็น ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) ของกองทรัสต์ และบริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 100 % ของบริษัทอิมแพ็คฯจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager)
 
ในภาวะการลงทุนปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนมากขึ้นและได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ  หน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) จะเป็นเครื่องมือการลงทุนใหม่ในประเทศไทย และจะเป็นทางเลือกของการลงทุนที่มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการผลตอบแทนในรูปของส่วนต่างของราคาหน่วยลงทุน (Capital Gain) และเงินปันผลที่ค่อนข้างสม่ำเสมอและมั่นคง และอาจถือได้ว่าเป็นเครื่องมือการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่สามารถชนะอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น การลงทุนในหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์น่าจะสร้างผลตอบแทนในระยะยาวในระดับที่ดีให้แก่ผู้ลงทุนระยะยาว(Long-term Investors) และน่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นในต่างประเทศมีความผันผวนค่อนข้างสูง จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของอเมริกา ยุโรป จีนและประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของโลก
 
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
จินตนา พงษ์ภักดี      
โทร  : 02 833 5061 / 081 640 0497

ธนาคารกสิกรไทย
ส่วนบริหารเครือข่ายสื่อ
ฝ่ายสื่อสารและองค์การสัมพันธ์       โทร : 02 470 2654-8

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ฝ่ายวาณิชธนกิจ                โทร : 02 658 6300 ต่อ 1713 / 1715

Friday 23 August 2013

ทีมเชฟอิมแพ็คคว้าชัยชนะครองถ้วยรางวัลจากงาน TRAFS 2013

ทีมเชฟอิมแพ็คคว้าชัยชนะครองถ้วยรางวัลจากงาน TRAFS 2013
โชว์ความสุดยอดอีกครั้งสำหรับทีมเชฟอิมแพ็คภายหลังคว้าชัยชนะจากการประกวดแข่งขันในงาน Thailand Retail, Food & Hospitality Services หรือ TRAFS 2013 ซึ่งเป็นงานแสดงอาหาร เครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีก อันดับ 1 ของประเทศ ด้วยการกวาดรางวัลคะแนนรวมสูงสุด ชนะเลิศรับถ้วยรางวัลถึง 2 ถ้วย พร้อมกับ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง จาก 4 ชนิดการแข่งขัน เมื่อเร็วๆ นี้
เชฟเจอเรมี ลิม บุน เส็ง หัวหน้าพ่อครัวผู้บริหาร ประจำศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ทางทีมเชฟอิมแพ็คได้เข้าร่วมการแข่งขันในงาน Thailand Retail, Food & Hospitality Services หรือ TRAFS 2013 งานแสดงอาหาร เครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีก อันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งได้จัดการแข่งขันทำอาหาร เบเกอรี่ ร่วมด้วยเป็นปีที่ 7 และในปีนี้ อิมแพ็ค ก็ได้ส่งทีมเชฟเข้าประกวดใน 4 รายการ และสามารถคว้ารางวัลมาได้ทั้ง 4 รายการ 
เริ่มต้นด้วยการแข่งขัน ไทยแลนด์ เบสท์ โมเดิล ควีซีน โดยเชฟหนุ่ม ภทร รอดผล เชฟประจำร้านอาหารบิสโตร เดอ แชมเปญ ของอิมแพ็ค ได้ลงแข่งขันทำอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นจำนวน 3 คอร์ส คอร์สละ 3 อย่าง รวมทั้งหมด 9 จาน แข่งขันกับทีมเชฟจากโรงแรม 4 และ 5 ดาว จากในประเทศมากมาย และผลการแข่งขันสรุปเชฟหนุ่มของอิมแพ็คชนะการแข่งขัน ด้วยมีผลคะแนนรวมสูงสุด พร้อมรับถ้วยรางวัลและเหรียญทองมาครอง 
ต่อจากนั้นทีมเชฟเบเกอรี่ของอิมแพ็ค ได้ลงแข่งขันประกวดการตกแต่งเค้ก โดยอิมแพ็คได้แบ่งเป็นสองทีมๆ ละ 2 คน ทีมเอและทีมบี ลงประชันฝีมือกับทีมเชฟเบเกอรี่จากโรงแรมชั้นนำ อาทิ โรงแรมแมนดาริน โอเรนเต็ล, ทวิน ทาวเวอร์, รามา การ์เด้น, โซทวิน และแมริออท เป็นต้น ภายใต้เกณฑ์ตัดสินของคณะกรรมการ ซึ่งแบ่งเป็นความคิดสร้างสรรค์ 30 คะแนน รสชาติ 50 คะแนน และความลงตัว 20 คะแนน ผลการแข่งขันทีมเอคว้าถ้วยรางวัล พร้อมเหรียญทอง และทีมบีได้เหรียญทองแดง สำหรับรายการสุดท้ายเป็นการแข่งขันตกแต่งจานขนม อิมแพ็คได้แบ่งเป็นสองทีมเช่นกัน โดยทีมเอทำผลงานคว้ารางวัลเหรียญเงิน และทีมบีคว้ารางวัลเหรียญทองแดง
เชฟโจ้ ณฤธ์ชัชชัย แผลงสุสิริชัย เชฟผู้มากประสบการณ์ด้านเบเกอรี่มากว่า 20 ปี ในฐานะโค้ชของทีมเชฟ อิมแพ็ค กล่าวว่า ถือเป็นที่น่าพอใจและภูมิใจอย่างมากกับตัวเลขสรุปผลรางวัลของอิมแพ็คที่ได้รับถ้วยรางวัลจำนวน  2 ถ้วย พร้อมกับ  2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง การแข่งขันครั้งนี้ อิมแพ็ค เลือกส่งเด็กใหม่ที่มีฝีมือเพื่อไปลองสนามและหาประสบการณ์ใหม่ๆ จากการแข่งขัน เพื่อเตรียมพร้อมแข่งขันในรายการ Thailand International Culinary Cup หรือ TICC ในเดือนกันยายน ณ ศูนย์แสดงสินค้า ไบเทค บางนา ด้วย รวมถึงเป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของทีมเชฟอิมแพ็คและบริการจัดเลี้ยง อิมแพ็ค แคเทอริ่ง ที่มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นคุณลักษณะเด่นของ อิมแพ็ค ที่มุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพทำงานด้วยใจ คนเยี่ยมอุปกรณ์ยอด สามารถตอบโจทย์ ตรงใจลูกค้านั่นเอง
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
จินตนา  พงษ์ภักดี โทร: +66 (0) 2833 5061 อีเมล์:  jintanap@impact.co.th
สุภาพร  บุญขาว โทร: +66 (0) 2833 5077 อีเมล์:  supapornb@impact.co.th
เชิญตะวัน จำเริญศักดิ์ศรี โทร: +66 (0) 2833 5067 อีเมล์:  choentawanj@impact.co.th

Tuesday 16 July 2013

อิมแพ็ค ปลื้มโลเคชั่นยอดฮิตถ่ายภาพยนตร์โฆษณากว่า 30 งานต่อปี


นางอัจฉราวรรณ สุภางครัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า อิมแพ็ค เมืองทองธานี นอกจากจะเป็นศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมที่เพรียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและบริการที่ดีเยี่ยมภายใต้มาตรฐานสากลแล้ว จากความหลากหลายและสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมของศูนย์ฯ ซึ่งในแต่ละอาคาร สถานที่ รวมถึงพื้นที่ภายในและภายนอกศูนย์ที่มีความโดดเด่น ทำให้อิมแพ็คได้รับเลือกเป็นสถานที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณาอย่างต่อเนื่อง

โดยในปีงบประมาณ 2554 (เมษายน 2554- มีนาคม 2555) ที่ผ่านมา อิมแพ็ค ได้รับเลือกจากลูกค้ากองถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณาใช้สถานที่สำหรับถ่ายทำกว่า 20 งาน แบ่งเป็นกองถ่ายทำภาพยนตร์จากในประเทศ 16 งาน และต่างประเทศ 4 งาน ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ปากีสถาน และหากแยกประเภทสินค้าที่ถ่ายทำมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ยานยนต์ (รถยนต์และจักรยานยนต์) จำนวน 6 งาน 2.เครื่องอุปโภค บริโภค จำนวน 5 งาน และ 3.อุปกรณ์ไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 4 งาน และตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555 จนถึงขณะนี้ อิมแพ็ค มียอดจองถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณา รวมแล้ว 27 งาน อาทิ ชุดชั้นใน Sabrina, ลิปสติกมิสทีน, เครื่องดื่มเพียวริคุ, กระดาษ Double A, มาสด้า BT-50, Honda CRV, Honda City, Allianz Ayudhya(ประกันชีวิต) เป็นต้น

สำหรับสถานที่ในอิมแพ็คที่มีการขอใช้เป็นพื้นที่ถ่ายทำโฆษณาหรือภาพยนตร์มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.) อาคารศูนย์การประชุม อิมแพ็ค ฟอรั่ม บริเวณด้านหน้า Entrance 2 และ Entrance 1 มากถึง 7 งาน อันดับ 2 คือ ถนนภายในของพื้นที่ศูนย์ฯ จำนวน 4 งาน และอันดับ 3 ลานริมทะเลสาบ เมืองทองธานี จำนวน 3 งาน ทั้งนี้ โดยภาพรวมแล้วยอดการเช่าพื้นที่ถ่ายทำโฆษณาและภาพยนตร์ในปี 2555 ที่ผ่านมา มีจำนวนยอดการจองพื้นที่มากขึ้นมีรายได้รวม 2.25 ล้านบาท แต่ยังน้อยกว่ารายได้ของปี 2554 ซึ่งมีรายได้ 2.39 ล้านบาท เนื่องจากปี 2555 จะเป็นกองถ่ายขนาดเล็กถ่ายทำเสร็จภายในวันเดียว ทำให้รายได้ต่องานนั้นน้อยลงกว่าเดิม สำหรับปี 2556 คาดว่าจะมีรายได้ที่ 3 ล้านบาท
 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจุดเด่นของ อิมแพ็ค ได้แก่ ลักษณะการออกแบบอาคารที่มีความทันสมัย ถนนภายในที่ดูเป็นถนนใจกลางเมือง รวมถึงลานริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ซึ่งเป็นลานกว้างที่สามารถถ่ายทำฉากที่ต้องการพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ ให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ หรือฉากที่มีตัวประกอบเข้าฉากเป็นจำนวนมากนั้นจะเป็นตัวดึงดูด ให้อิมแพ็คได้รับเลือกเป็นโลเคชั่นหรือสถานที่สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณาจากทีมงานผู้ผลิตภาพยนตร์และโฆษณาทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่องกว่า 30 งานต่อปี

อิมแพ็ค ลุยตลาดเวดดิ้งอินเดีย จัดโปรโมชั่นพิเศษชิงมาร์เก็ตแชร์

 

นายชวนิช สิริสิงหล ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า “ อิมแพ็ค เมืองทองธานี มองเห็นธุรกิจนี้ที่โตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จึงหันมาเจาะตลาดกลุ่มนี้ ด้วยการนำเสนอความสมบูรณ์แบบครบวงจรของอิมแพ็ค สำหรับจัดงานเวดดิ้งคู่รักอินเดีย  ด้วยบริการห้องจัดเลี้ยง อาหารและเครื่องดื่ม สามารถรับรองแขกได้ตั้งแต่ 100 -3,500 คน   โดยมี  รอยัล จูบิลี่ บอลรูม  ที่รองรับแขกกว่าสามพันคน  สามารถร่วมบริการจัดงานในทุกพิธีการตั้งแต่ขบวนแห่  ช้าง  ม้า งานพิธีกรรมสมรสในพิธีแบบฮินดู  งานเลี้ยง งานเต้นรำ  โดยที่ผ่านมา เราได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นสถานที่และผู้ให้บริการที่สร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืมและเป็นที่ชื่นชอบจากทั้งเจ้าของงานและแขกที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก

จากสถิติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยการเติบโตของตลาดเวดดิ้งอินเดียในไทยที่มีแนวโน้มที่โตขึ้นทุกปี  เพราะการจัดงานในไทยนั้นถึงจะมีค่าสูงแต่ยังถูกกว่าในอินเดียมาก  รวมทั้งความสะดวกสบายที่ครบครันทั้งเรื่องสถานที่ อาหาร เครื่องดื่ม  ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคู่ฮันนีมูนในไทยที่มีให้เลือกมากมาย   ส่งผลให้โรงแรม ต่างๆ  ออร์แกไนเซอร์ด้านงานวิวาห์ทั้งในกรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต มีความตื่นตัวและมีผลประกอบการดีขึ้นต่อเนื่อง  เพราะชาวอินเดียถือว่าพิธีแต่งงานเป็นประเพณีที่สำคัญมากจึงจัดงานอย่างเต็มที่ อาทิ  การใช้สถานหรูหราสำหรับทำพิธีหลายวัน  เช่าเหมาลำเพื่อเดินทางมาร่วมงาน จองห้องพักแบบเหมาทั้งโรงแรม และใช้ระยะเวลาหลายวันสำหรับพิธีการ

ด้าน อิมแพ็ค  มีความพร้อมรับงานเวดดิ้งอินเดียต่อเนื่องเช่นกัน  มีการจัดฝึกอบรมทีมเชฟสำหรับดูแลเมนูอาหารอินเดียให้เป็นไปตามมาตรฐานอาหารปลอดภัย หรือ ISO.22000 อย่างเคร่งครัด  ตระเตรียมด้านเมนูอาหารมังสวิรัตรสชาติจัดจ้านแบบไทยกว่า 50 เมนู  ทั้งอาหารเรียกน้ำย่อย ซุป สลัด อาหารจานหลัก ของหวานและเครื่องดื่ม อาทิ สลัดมะม่วงกับซอสกะหรี่ วอล ลู วองท์เห็ด พาสต้าสลัดกับมะกอกรวม ซุปมะเขือเทศกับขนมปังกรอบ มะเขือม่วงยัดไส้เอลฟาเบตินี เต้าหู้สอดไส้ผักขมซอสน้ำแดง แกงมัสมั่นใส่เนื้อสัตว์เทียม พานาคอตต้า ทาร์ตแอปเปิ้ลครัมเบิล และอื่นๆ อีกมากมาย   นอกจากนี้ อิมแพ็ค ยังมีทีมตกแต่งสถานที่และการจัดดอกไม้  ซึ่งเป็นทีมที่มีความชำนาญด้านพิธีกรรมการจัดงานวิวาห์ของชาวอินเดียเป็นอย่างดี”        นายชวนิช กล่าวเสริม

นางกัญญาณัฐ ชัยธนาวสิษฐ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขาย กล่าวว่า “อิมแพ็ค ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเตรียมลุยตลาดจัดงาน    เวดดิ้งของลูกค้าชาวอินเดียตลอดปี 2556  ด้วยแพ็คเกจเวดดิ้งสำหรับคู่รักที่เลือกจัดงาน ณ ห้องจัดเลี้ยงของอิมแพ็คที่มีทั้งขนาดเล็ก กลาง และ ใหญ่   ได้แก่  ห้องฟีนิกซ์  ห้องแซฟไฟร์  ห้องจูปิเตอร์  ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม และห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม  รวมถึงพื้นที่จัดเลี้ยง Banquet Hall ในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อท่าน

สำหรับลูกค้าที่จองสำหรับแขกจำนวน  150 – 399 ท่าน รับฟรีทันที ฮันนีมูน ดินเนอร์สุดหรู พร้อมห้องพักที่ยายย่า รีสอร์ท      หัวหิน  2 วัน 1 คืน  แขกจำนวน 400 – 699 ท่าน รับฟรี แพ็คเกจฮันนีมูนพร้อมที่พักแบบ พูล วิลล่า 2 วัน 1 คืน  และแขกจำนวน 700 ท่านขึ้นไป รับฟรีทันทีแพ็คเกจฮันนีมูนพร้อมที่พักแบบ พูล วิลล่า 3 วัน 2 คืน  ทั้งนี้ สิทธิพิเศษดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ยืนยันการจัดงานภายใน 31 ธันวาคมนี้เท่านั้น

จากที่ภาครัฐฯ ได้ให้การสนับสนุนในการดึงคู่รักและนักท่องเที่ยวอินเดียมาจัดงานวิวาห์ในไทยอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลให้ตลาด    เวดดิ้งอินเดียในไทยมีการเติบโตถึง 10-20 % ต่อปี  หรือมูลค่ารวมของตลาดเวดดิ้งในไทยที่มีมากกว่า 30,000 ล้านบาท  สำหรับ อิมแพ็ค มั่นใจว่าสามารถดึงมาร์เก็ตแชร์ตลาดเวดดิ้งโดยรวมเพิ่มขึ้น  5 - 10%    ด้วยความพร้อมทั้งสถานที่จัดงาน อาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมหรูในพื้นที่เดียวกัน รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นตลาดเวดดิ้งอินเดียตลอดปีนี้”

อิมแพ็ค ทุ่มทุน 30 ล้านสร้างโรงเก็บอุปกรณ์แห่งใหม่รับการเติบโตธุรกิจ


นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ อิมแพ็ค ได้ลงทุนก่อสร้างโรงเก็บอุปกรณ์แห่งใหม่ ภายใต้งบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อจัดเก็บอุปกรณ์ สำหรับการจัดงานประชุม สัมมนา งานเลี้ยงสังสรค์ กิจกรรมพิเศษ คอนเสิร์ต งานแต่งงาน ฯลฯ ที่มีกว่าแสนชิ้น ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา แท่นเวที โพเดียม ผ้าดำผืนใหญ่ ฯลฯ ซึ่งเดิมทีอุปกรณ์เหล่านี้ถูกจัดเก็บยังชั้น 4 ของตึกสำนักงานอาคารบางกอกแลนด์ และตามสโตร์ย่อยของอาคารอารีน่า, ชาเลนเจอร์, และอิมแพ็ค ฟอรั่ม ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถจัดเก็บอุปกรณ์ได้เพียงพอจึงจำเป็นต้องสร้างโรงเก็บอุปกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้น

โรงเก็บอุปกรณ์ดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณด้านท้ายของลานจอดรถ P4 ตรงข้ามอาคาร 8 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค ซึ่งเป็นอาคารโกดังยกสูงทรงสี่เหลี่ยมคางหมู พื้นที่รวม 3,150 ตารางเมตร ออกแบบก่อสร้างโดยใช้แนวคิดการประหยัดพลังงาน ด้วยการยกหลังคาสูง เพื่อช่วยให้แสงสว่างเข้าถึง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทั้งนี้ สามารถรองรับอุปกรณ์สำหรับจัดงานได้ถึง 70% ของอุปกรณ์ทั้งหมด สร้างความสะดวกในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ไปยังพื้นที่จัดงานได้รวดเร็ว สามารถลดระยะเวลาการขนย้ายได้มากกว่าเดิม 1-2 เท่า เนื่องจากไม่ต้องขนถ่ายโดยการใช้ลิฟท์ขึ้นลงจากชั้น 4 ของตึกอาคารสำนักงาน
นอกจากนี้ ยังช่วยให้การตรวจสอบ การจัดเก็บอุปกรณ์ การเบิกจ่ายสามารถแยกเก็บได้อย่างชัดเจน ง่ายไม่ยุ่งยาก แม้อุปกรณ์จะมีจำนวนมากก็ตาม อาทิ เก้าอี้ที่มีมากถึง 12 แบบ จำนวนรวมกันกว่า 6 หมื่นตัว โต๊ะหลากหลายสไตล์กว่า 1.6 หมื่นตัว เป็นต้น รวมถึงในอาคารยังใช้เป็นพื้นที่สำหรับซ่อมบำรุงอุปกรณ์ เป็นที่ทำงานของทีมสโตร์และทีมช่างซ่อมบำรุงของฝ่ายปฏิบัติการ ส่วนงาน set up สร้างความสะดวกในการบริหารจัดการพื้นที่จัดงานของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

นายพอลล์ กล่าวเสริมว่า ด้วยจำนวนการจัดงานที่อิมแพ็คมีมากกว่า 800 งานต่อปี และมีผู้เดินทางมาร่วมงานทั้งประชุม สัมมนา งานเลี้ยงสังสรรค์ ดูคอนเสิร์ต มางานแต่งงาน และอื่นๆ มากกว่า 10 ล้านคนต่อปี ทำให้ อิมแพ็ค ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์สำหรับการจัดงานต่างๆ ไว้อย่างดีและเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและต้องมีโรงเก็บอุปกรณ์ที่พร้อมด้วย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดไมซ์ในปีนี้ยังคงเติบโตได้ดีเช่นปีที่ผ่านมา ซึ่งปีงบประมาณ 2555 (เมษายน 2555-มีนาคม 2556) อิมแพ็ค มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,800 ล้านบาท และหากเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2554 ซึ่งมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท จะเห็นว่าในปี 2555 อิมแพ็ค มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างมากสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 40% หรือ 800 ล้านบาท และจากการมุ่งมั่นพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ปี 2556 คาดว่าอิมแพ็คจะมีรายได้ถึง 3,000 ล้านบาท

Wednesday 27 March 2013

อิมแพ็ค ร่วมส่งมอบความสุขแด่ทุกคู่รักด้วยโปรโมชั่นวิวาห์สุดพิเศษ



อิมแพ็ค เมืองทองธานี สถานที่ซึ่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่ดีเยี่ยมครบครันกับ 52 ห้องจัดเลี้ยงที่หลากหลายพร้อมการตกแต่งอย่างสวยหรูและสง่างาม สามารถรองรับแขกผู้ร่วมงานได้ตั้งแต่ 100-3,500 ท่าน ขอร่วมส่งมอบความสุขแด่ทุกคู่รักด้วยโปรโมชั่นวิวาห์สุดพิเศษ สำหรับคู่ที่เลือกจองแพ็คเกจจัดงานวิวาห์ ในแบบค็อกเทลราคาสุทธิเริ่มต้นที่ 690 บาท* สำหรับแขกร่วมงาน 150 ท่านขึ้นไป รับฟรี ฮันนีมูนดินเนอร์ พร้อมห้องพักสุดหรู ณ ยายย่า รีสอร์ท หัวหิน 2 วัน 1 คืน และหากการันตียอดแขกร่วมงาน  1,000 ท่านขึ้นไป รับฟรีทันที ฮันนีมูนทริป ด้วยแพ็คเกจเดินทางท่องเที่ยว พร้อมที่พักโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว 3 วัน 2 คืน ณ ประเทศมาเก๊า สิทธิพิเศษนี้สำหรับคู่รักที่เลือกจองห้องจัดเลี้ยงภายใน 30 เมษายน 2556 นี้เท่านั้น สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2833-5252


สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร                                                                                                        
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด                                                                                  โทร.0-2833-5061/ 5073 / 5077
(จินตนา / สวภัทร์ / สุภาพร) 
(*ราคาสุทธิต่อท่าน รวมเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และสามารถกำหนดจัดงานตามต้องการในปี 2556)

Tuesday 19 March 2013

อิ่มอร่อยกับสุกี้บุฟเฟ่ต์และอาหารชุดสุดคุ้ม สไตล์ฮ่องกง ที่ฮ่องกง สุกี้ เริ่มต้น 399


ร้านอาหารฮ่องกงสุกี้ ที่สุโขทัยอเวนิว 99 เมืองทองธานี แนะนำรายการอาหารสุดคุ้ม ทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และเซ็ทเมนูให้เลือกอิ่มอร่อย โดยสุกี้บุฟเฟ่ต์สไตล์ฮ่องกง พร้อมน้ำซุป 3 รสชาติ และวัตถุดิบสดใหม่ อิ่มอร่อยจุใจได้ในราคาเริ่มต้นที่ 399 บาท สำหรับเซ็ทเมนู มีโปรโมชั่นให้เลือก 3 ชุด ในช่วงเวลาตั้งแต่ 11.00-15.00 น. โดยชุดสำหรับ 1 ท่าน ประกอบด้วย ซุปประจำวัน ขนมจีบหมู ข้าวผัดหยางเจา และเครื่องดื่ม 1 ที่ ในราคา 199 บาท ชุดสำหรับ 2-3ท่าน ประกอบด้วย ซุปประจำวัน ออเดิร์ฟ ร้อนรวมมิตร, ผัดผักคะน้าน้ำมันหอย, บะหมี่ผัดฮกเกี้ยน และเครื่องดื่ม 2 ที่ ราคา 399 บาท และชุดสำหรับ 3-4 ท่าน ราคา 499บาท ร้านฮ่องกง สุกี้ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา   11.00 – 21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.  0-2-503-4408

สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
โทร.0-2833-5061-5073-5076
จินตนา/ สวภัทร์ / จิราพร

พฤกษา อารีน่า เบียร์ การ์เด้น @ อิมแพ็ค เมืองทองธานี


พบกันเช่นเคยกับอารีน่า เบียร์ การ์เด้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่คราวนี้เกาะกระแสลดโลกร้อน อินเทรนด์ ในธีมพฤกษา ตกแต่งบรรยากาศลานเบียร์ให้ร่มรื่นเขียวชอุ่มด้วยไม้ใบนานาพันธุ์ พร้อมดนตรีสดฟังสบายทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน เสิร์ฟความบันเทิงยามค่ำคืนทั้งเครื่องดื่มและอาหารอีสานรสแซ่บต้อนรับงาน มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 34 เริ่ม 25 มีนาคม – 7 เมษายน 2556 นี้ ห้ามพลาด!!

สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
โทร.0-2833-5061, 5073, 5076
จินตนา / สวภัทร / จิราพร
 

ไทยมั่นใจยกระดับมาตรฐานสปาสู่ตลาดโลก

 

    
กรุงเทพฯ -  สมาคมสปาไทย ผนึกกำลัง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เตรียมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จเป็นปีที่สอง เป็นเจ้าภาพเปิดงาน “World Spa & Well-being Convention 2013” มหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านธุรกิจสปา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการด้านธุรกิจสปาและสุขภาพทั่วโลก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจสปาแห่งภูมิภาค โดยงานนี้ได้รวบรวมนวัตกรรม ความรู้ และมาตรฐานของธุรกิจสปาเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจสปาและสุขภาพ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 กันยายน 2556 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

ในปีนี้ คณะผู้จัดงานฯ คาดว่า World Spa & Well-being Convention 2013 จะได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 5,000 คน และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงสินค้าและบริการกว่า 100 บริษัท
แอนดรู แจคก้า นายกสมาคมสปาไทย เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมสปามีความเกี่ยวพันกับน้ำเป็นอย่างมาก ในปีนี้ เราจึงจัดงานฯ ภายใต้แนวคิดของ “ธาตุน้ำ” โดยคณะผู้จัดงานฯ จะถ่ายทอดแนวคิดดังกล่าวออกมาในทุกส่วนของงาน ครอบคลุมทั้งงานแสดงสินค้า งานสัมมนา และงานประกาศรางวัล  เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสปาและสุขภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์และ ศิลป์ของน้ำ ตั้งแต่การให้กำเนิดตลอดจนความสัมพันธ์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์” คุณ แอนดรู ยังกล่าวเสริมอีกว่า “งานนี้จะช่วยเปิดโลกทัศน์ของคุณ เพื่อให้เข้าใจว่าน้ำในแต่ละสถานะ (ก๊าซ ของเหลว และของแข็ง) มีประโยชน์ และเกี่ยวข้องกับธุรกิจสปาและสุขภาพอย่างไร โดยในงานสัมมนา เราจะมีกูรูทางด้านสปาและสุขภาพถึง 9 ท่าน จากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อมาให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ ที่ผู้ประกอบการและบุคคลที่สนใจในอุตสาหกรรมสปาและสุขภาพไม่ควรพลาด”

งาน “World Spa & Well-being Convention 2013” จะจัดขึ้นทั้งสิ้น 4 วัน โดยจะประกอบไปด้วยงานสัมมนา 2 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมฯ ได้พบปะและเจรจาธุรกิจโดยตรง พร้อมแนะนำและแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจในการประกอบธุรกิจสปา รวมไปจนถึงการตามติดนวัตกรรมใหม่ๆ การรวบรวมไฮไลท์เด็ดๆ ไว้อย่างมากมาย อาทิ การลงทะเบียนตามธาตุ โซนแห่งการเรียนรู้ มุมที่ปรึกษาด้านสปา โซนบูธนานาชาติ และกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ สมาคมสปาไทยยังได้จัดงานประกาศรางวัล Thailand Spa & Well-being Awards ขึ้นเป็นปีที่สอง เพื่อส่งเสริมมาตรฐานอุตสาหกรรมสปาไทย และเฉลิมฉลองให้แก่ผู้ประกอบการสปาและสุขภาพของไทยในบรรยากาศผสมผสานแบบไทย และนานาชาติ

นางสาวภัททิราพร เขียวสนั่น อุปนายกสมาคมสปาไทย กล่าวเสริมว่า “อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมสปาเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้สปาเป็นธุรกิจที่ดึงดูดนักลงทุนและกลายเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมท่อง เที่ยวในปัจจุบัน งาน World Spa &    Well-being Convention 2013 นี้มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในตลาดสปาโลก โดยการยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน ส่งเสริมนวัตกรรมด้านการบริการ และจัดแสดงสินค้า ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้สนใจและผู้ประกอบการธุรกิจสปาที่จะ สร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างกัน ด้วยรูปแบบการจัดงานคือ Education, Standards & Innovation ซึ่ง World Spa & Well-being Convention 2013 จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม สปาและสุขภาพ เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต”

เตรียมพบกับงาน “World Spa & Well-being Convention 2013” ได้ระหว่างวันที่ 18 - 21 กันยายน 2556 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จองบูธหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ คุณณิชาพร พงษ์สนาม โทร 02-833-5215 แฟ็กซ์ 02-833-5127-9  อีเมล์: nichapornp@impact.co.th หรือเข้าชมเว็บไซต์ของงานที่ www.worldspawellbeing.com
 
สื่อประชาสัมพันธ์ กรุณาติดต่อ
หน่วยงานการตลาด: คุณภรินธร อัศวเลิศไพบูลย์ โทรศัพท์ 02-833-5312 อีเมล์ parintornu@impact.co.th

อิมแพ็ค ทุ่ม 10 ล้านขานรับนโยบายรัฐวางมาตรการประหยัดพลังงานป้องกันวิกฤตเดือนเมษายน

Published : 2013-03-05

อิมแพ็ค ขานรับนโยบายรัฐวางมาตรการประหยัดพลังงานป้องกันเหตุวิกฤตเดือนเมษายน เริ่มจากการสำรวจ วิเคราะห์ พร้อมทุ่มงบเกือบ 10 ล้านบาท พัฒนาระบบและเลือกใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ย้ำแม้เกิดเหตุจริงมั่นใจไม่มีผลกระทบกับศูนย์ฯ ด้วยได้ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวงวางแผนรับมืออย่างดี และช่วงเวลาดังกล่าวมีการจัดงานน้อย อีกทั้งมั่นใจกับมาตรการที่วางไว้ตาม มอก.50001 ซึ่งมีประสิทธิภาพส่งผลให้ปี 55 ลดค่าไฟฟ้าได้แล้วถึง 21 ล้านบาท 

นายพอลล์  กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ตามที่ภาครัฐได้ออกมาขอความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดพลังงาน ด้วยคาดการณ์กรณีที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า จะปิดปรับปรุงแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในช่วงวันที่ 4-12 เมษายน 2556 ซึ่งอาจจะกระทบกับการส่งก๊าซผลิตกระแสไฟฟ้าในไทย ทำให้ช่วงนั้นไทยต้องเจอกับวิกฤตไม่มีไฟฟ้าใช้ ทาง อิมแพ็ค ตระหนักและให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง

เบื้องต้นได้วางมาตรการประหยัดพลังงานของศูนย์ฯ โดยเริ่มจากการสำรวจอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานทั้งหมดของศูนย์เพื่อหาสัดส่วนของ การใช้พลังงานไฟฟ้าและความร้อน อุปกรณ์ชนิดใดบ้างมีการใช้พลังงานมากที่สุดจนถึงน้อยที่สุด ซึ่งพบว่าโดยเฉลี่ยสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 90% และความร้อนอยู่ที่ 10% หลังจากนั้นได้มาวิเคราะห์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในศูนย์ฯ 90% มาจากระบบปรับอากาศ 56% ไฟฟ้าแสงสว่าง 16% ร้านค้า 4% ครัว 6% ไฟบูธเอ็กซิบิชั่น 8% และอื่นๆ อีก 10% ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อมูลแล้วจึงนำมาวิเคราะห์และกำหนดมาตรการประหยัดพลังงานที่จะ ดำเนินการทันที

โดยเน้นในส่วนของมาตรการที่ไม่ต้องลงทุนเป็นอันดับแรก เช่น การปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติงาน การใช้ระบบเปิดปิดไฟฟ้าเป็นเวลา การใช้สวิทซ์ไฟกระตุก การลดใช้ในส่วนที่ไม่จำเป็น เป็นต้น และหลังจากนั้นได้พิจารณามาตรการที่ลงทุนน้อยไปจนถึงมากในการจัดหาระบบและ เทคโนโลยีเพื่อช่วยลดค่าพลังงานไฟฟ้าในศูนย์ฯ ภายใต้งบลงทุนรวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท ได้แก่ 1.) การปรับเปลี่ยนระบบเซนเซอร์ มาใช้ในการควบคุมการทำงานระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ซึ่งสามารถปรับความแรงของลมได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ใกล้เคียงความจริง มากกว่าการใช้คนวัดอุณหภูมิและปรับตั้งค่าความเย็น งบประมาณ 9 แสนบาท 2.) ระบบไฟแสงสว่าง อิมแพ็ค ได้เปลี่ยนมาใช้หลอด LED โดยคาดว่าปี 2556 บริษัทฯ จะทยอยเปลี่ยนหลอดไส้แบบเดิมเป็นหลอด LED แทนได้ทั้งหมด งบประมาณ 3 ล้านบาท 3.) ระบบควบคุมไฟแสงสว่าง บริษัทฯ จะดำเนินการแยกระบบไฟแสงสว่างให้สามารถเปิดได้อิสระแบบ 1 ดวงต่อ 1 สวิทซ์ ซึ่งใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท และสุดท้ายการติดตั้งเครื่อง Chiller หรือเครื่องทำความเย็นในระบบปรับอากาศ ใหม่โดยเลือกใช้ chiller ที่มีประสิทธิภาพสูงมาติดตั้งในพื้นที่เพิ่มเติมใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท

นายพอลล์ กล่าวเสริมว่า ในปี 2555 อิมแพ็ค สามารถประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 21 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 13 ล้านบาท จากยอดการจัดงานเฉลี่ยต่อปี 800 งาน มีค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้ารวม 150 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสิ่งสำคัญและถือเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้ อิมแพ็ค ประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้าได้สำเร็จมาจากการประกาศดำเนินงานตาม มอก.50001 หรือมาตรฐานด้านการประหยัดพลังงาน เมื่อปี 2554 มาอย่างต่อเนื่อง และอีก 3 ปัจจัยสำคัญ คือ 1.การให้การสนับสนุนของคณะผู้บริหารระดับสูงที่เล็งเห็นความสำคัญในการ ประหยัดพลังงาน ปัจจัยที่ 2 การสร้างยอดขายพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นของฝ่ายขายทำให้การใช้พลังงานมีความคุ้ม ค่ามากขึ้น และปัจจัยสุดท้ายคือการให้ความร่วมมือที่ดีและการมีส่วนร่วมของพนักงานภายใน บริษัทและความร่วมมือจากความเข้าใจเรื่องการช่วยประหยัดพลังงานของลูกค้า

อย่างไรก็ตาม หากเกิดวิกฤตพลังงานไฟฟ้าในเดือนเมษายนตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับศูนย์ฯ  ด้วยอิมแพ็คได้เตรียมมาตรการป้องกันเหตุไฟฟ้าขัดข้องดังกล่าวไว้เป็นอย่างดี กอรปกับช่วงเวลาดังกล่าวพื้นที่อิมแพ็คมียอดจองจัดงานเพียง 9 งาน โดยเป็นงานประชุม สัมมนา งานแสดงคอนเสิร์ต และงานแต่งงาน ซึ่งยอดจัดงานสิ้นสุด ณ วันที่ 9 เมษายน 2556 หลังจากนั้นเป็นช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ทำให้ไม่มียอดจองจัดงานและจะเริ่มจะ จัดงานอีกครั้งหลังสงกรานต์ แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาททางอิมแพ็คได้ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง เขตนนทบุรี วางมาตรการป้องกันเหตุแล้วขณะนี้

โดยในส่วนของการไฟฟ้านครหลวงแจ้งว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ได้วางมาตรการป้องกันหลักๆ ไว้แล้ว อาทิ การเตรียมพร้อมน้ำมันเตา, น้ำมันดีเซล และอื่นๆ สำหรับผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซ และหากเกิดเหตุกำลังผลิตไฟฟ้าไม่พอเพียงเกิดขึ้นจริง การไฟฟ้านครหลวง เขตนนทบุรี จะทำการปลดสายป้อนไฟฟ้าในพื้นทีที่ไม่ใช่เขตธุรกิจออกบางส่วนก่อน เพื่อคงไฟฟ้าให้เขตธุรกิจใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ โดยเฉพาะศูนย์อิมแพ็ค จะไม่มีผลกระทบโดยเด็ดขาด

สำหรับอิมแพ็คขณะนี้ได้แจ้งกับลูกค้าเพื่อทราบถึงมาตรการเตรียมความพร้อมรับ มือกับเหตุดังกล่าว เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจกับการจัดงานตามกำหนดเดิมพร้อมขอความร่วมมือลูกค้าให้ เข้าใจในมาตรการประหยัดพลังงาน โดยแจ้งรายละเอียดถึงการดำเนินงาน เช่น การลดชั่วโมง Pre Cool ลงจาก 2 ชั่วโมง เหลือ 1 ชั่วโมง ก่อนเวลาเปิดแสดงงาน การปิดเครื่อง Chiller ก่อนเวลาปิดระบบปรับอากาศให้เร็วขึ้นจาก 30 นาทีก่อนเวลาปิดแสดงงานเป็น 45-60 นาทีตามเหมาะสม การปรับตั้งอุณหภูมิความเย็นจากเดิมไว้ที่ 23-24 องศา เป็น 25-26 องศา และสุดท้ายการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบห้องต่างๆ ว่าได้ทำการปิดแอร์ และไฟแสงสว่างโดยทันทีเมื่อเลิกใช้งาน ซึ่งลูกค้าผู้จัดงานรับทราบและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
 
-จบ-
 
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
จินตนา  พงษ์ภักดี
โทร:
+66 (0) 2833 5061
อีเมล์:
 jintanap@impact.co.th
สวภัทร์  พิมพ์ใจชน
โทร:
+66 (0) 2833 5073
อีเมล์:
 sawapatp@impact.co.th
สุภาพร  บุญขาว
โทร:
+66 (0) 2833 5077
อีเมล์:
 supapornb@impact.co.th

Monday 4 March 2013

อิมแพ็ค ผนึก โซเด็กซ์โซ่ ขยายไลน์ธุรกิจรับบริหารจัดการอาคารสถานที่ และสาธารณูปโภคบนพื้นที่เมืองทองธานี

บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้นำธุรกิจศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอันดับหนึ่งของไทยขยายไลน์ธุรกิจ รับบริหารจัดการอาคาร สถานที่ และสาธารณูปโภคบนพื้นที่เมืองทองธานี โดยร่วมมือกับโซเด็กซ์โซ่ กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการบริหารจัดการชั้นนำจากฝรั่งเศส ภายใต้ชื่อ The Satellite City สร้างความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้คนในชุมชนกว่า 2 แสนคน
นายพอลล์  กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากที่บางกอกแลนด์ ซื้อหุ้นอิมแพ็คกลับคืนมาเกือบทั้งหมดแล้ว ทางบริษัทฯ ได้วางแผนพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ขยายธุรกิจสู่การบริหารจัดการอาคาร สถานที่ สาธารณูปการและการพัฒนาชุมชนเมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์  The Satellite City เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสมบูรณ์แบบสำหรับผู้คนที่อยู่อาศัยในพื้นที่เมืองทองธานีซึ่งมีมากกว่า 2 แสนคน พร้อมกันนี้เป็นการสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่เดินทางมาเยือนเมืองทองธานีซึ่งมีกว่า 16 ล้านคนต่อปีด้วย
โดยการขยายไลน์ธุรกิจครั้งนี้ อิมแพ็ค ได้ร่วมกับบริษัท โซเด็กซ์โซ่ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการสาธารณูปโภคชั้นนำระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส มาร่วมเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์สำหรับการบริหารจัดการอาคาร สถานที่ สาธารณูปการให้กับโครงการพัฒนาทางธุรกิจต่างๆ ของบางกอกแลนด์ในพื้นที่เมืองทองธานี ซึ่งได้เริ่มเข้าบริหารจัดการโครงการของบางกอกแลนด์ ที่ได้เปิดบริการแล้ว คือ  ศูนย์การค้า สุโขทัย อเวนิว 99 และอีก 2 โครงการซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ได้แก่ ดับเบิ้ล เลค คอนโดมิเนียม และบีไฮฟ์ (Bee Hive) ซึ่งเป็นโครงการไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์  มีกำหนดสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดบริการช่วงระหว่างปี 2556/2557”
“หลักการบริหารจัดการสาธารณูปโภคดังกล่าว จะเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าทั้งผู้ซื้อที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ซึ่งต่างต้องการการบริการที่คลอบคลุม 3 ประการหลัก ได้แก่ 1. การบริหารจัดการและบำรุงรักษาอาคาร สถานที่ ระบบสาธารณูปการ ไฟฟ้า น้ำปะปาอย่างครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพ 2. การรักษาความปลอดภัย และ 3. ความสะอาดทั้งภายในและภายนอกอาคาร  ซึ่งรวมถึงการดูแลภูมิทัศน์โดยรอบให้ดูเรียบร้อยและสวยงาม  ทั้งนี้ อิมแพ็ค รับประกันในเรื่องการให้บริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยในและผู้ที่มาเยือนเมืองทองธานีเกิดความมั่นใจในบริการแบบครบวงจร” นายพอลล์ กล่าวเพิ่มเติม
นายสจ๊วต วินเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย กล่าวว่า “โซเด็กซ์โซ่  ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการอาคาร สถานที่ สาธารณูปโภค ไฟฟ้า ให้กับ อิมแพ็ค มาตั้งแต่ปี 2551 และปัจจุบันได้ให้การบริการด้านเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเพิ่มขึ้น   ด้วยความเชี่ยวชาญและการได้รับความไว้วางใจจากหลายองค์กรทั่วโลกที่เลือกให้โซเด็กซ์โซ่ให้เป็นผู้บริหารจัดการ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า โซเด็กซ์โซ่พร้อมที่จะให้บริการแก่โครงการอสังหาริมทรัพย์ของบางกอกแลนด์ได้ดีที่สุด พร้อมทั้งเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เหมาะสมกับอิมแพ็ค เพื่อส่งเสริมงานบริหารจัดการอาคารและสถานที่ เกิดความสมบูรณ์แบบที่สุดภายใต้มาตรฐานระดับสากลต่อไป”
“ปัจจุบันเมืองทองธานีถูกจับตามองในด้านการพัฒนาในส่วนต่าง ๆ   ตั้งแต่การพัฒนาด้านสภาพแวดล้อม และ ด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การสร้างถนนเพิ่มเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มมากขึ้น การติดตั้งไฟส่องสว่างริมถนน ไปจนถึงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา  มีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหม่ๆ เข้ามาลงทุนในเมืองทองธานีเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยอย่างถาวรมากกว่า 200,000 คน นอกจากนี้ยังมีสำนักงานและบริษัทต่างๆ มากมาย อาทิ ธนาคารกสิกรไทย  กระทรวงกลาโหม และบริษัท ทรู คอร์ปเปอเรชั่น   ซึ่งในฐานะที่ อิมแพ็คเป็นผู้ประกอบธุรกิจรายใหญ่ที่สุดในเมืองทองธานี กอร์ปกับความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ  ทำให้ อิมแพ็ค สามารถให้บริการเพื่อช่วยส่งเสริมธุรกิจต่างๆ เหล่านั้น ได้เป็นอย่างดี” นายพอลล์ กล่าวสรุป

Thursday 28 February 2013

อิมแพ็ค มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษแก่ลูกค้ากลุ่มภาครัฐ

อิมแพ็ค เมืองทองธานี ศูนย์การประชุมระดับมาตรฐานสากล ซึ่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่ดีเยี่ยมครบครัน จัดโปรโมชั่นพิเศษ Meet Eat Stay เชิญชวนกลุ่มองค์กรหน่วยงานภาครัฐ จัดประชุม สัมมนา ตั้งแต่ 60 ท่านขึ้นไป ในราคาสุทธิเพียง 1,250 บาทต่อท่าน พร้อมรับทันทีบริการสุดพิเศษ ได้แก่ ห้องพักขนาดมาตรฐาน 1 คืน พร้อมอาหารเช้า บริการอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค และบริการสำหรับงานประชุม ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค อาทิ อุปกรณ์เครื่องเขียน อาหารกลางวันบุฟเฟต์ 1 มื้อ และคอฟฟี่เบรก 2 มื้อ สำหรับองค์กรหน่วยงานภาครัฐที่สนใจสามารถเลือกใช้บริการดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน 2556 สอบถามเพิ่มเติมโทร.0-2833-5246-9

Friday 22 February 2013

อิมแพ็คขยายฐานลูกค้า เปิดตัวอิมแพ็คแอพพลิเคชั่นบนระบบแอนดรอยด์



(มกราคม 2556) อิมแพ็คคาดยอดการดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น “อิมแพ็ค อีเว้นท์ คาเลนด้าร์” (IMPACT Event Calendar) บนโทรศัพท์มือถือเพิ่มเป็น 2 แสนรายภายในสิ้นปีนี้ หลังเปิดตัวแอพลิเคชั่นดังกล่าวบนระบบแอนดรอยด์ต้นปี 56 ต่อยอดจากกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนในระบบไอโอเอสของไอโฟน โดยเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าในการค้นหาข้อมูลการจัดงานต่างๆ ภายในศูนย์ อีกทั้งเสริมฟังก์ชั่นระบบเตือนความจำที่เชื่อมต่อกับปฏิทินบนมือถือได้โดย ตรง การแชร์ภาพบนเฟซบุ๊ค รวมถึงมอบสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นร้านอาหารจากทั้งในเครืออิมแพ็ค และร้านต่างๆ ที่ร่วมรายการ
นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัวอิมแพ็ค แอพพลิเคชั่น สำหรับมือถือระบบปฏิบัติการไอโอเอส (IOS) ไปแล้วเมื่อต้นปี 2555 โดยมีจำนวนผู้ดาวน์โหลดแล้วกว่า 8 หมื่นราย ทางอิมแพ็ค มีความตั้งใจที่จะเพิ่มความสะดวกให้แก่กลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น จึงได้พัฒนาแอพลิเคชั่นดังกล่าว ให้สามารถใช้กับมือถือระบบแอนดรอยด์ เพื่อให้ลูกค้าในกลุ่มที่ใช้มือถือระบบนี้สามารถค้นหาข้อมูลการจัดงานแสดง สินค้า นิทรรศการ การประชุม สัมมนา งานคอนเสิร์ต และกิจกรรมพิเศษต่างๆ ที่จัด ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วได้ไม่แพ้กับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (IOS)

ทั้งนี้ คาดว่าภายในสิ้นปี 2556 จะมีผู้ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นของอิมแพ็คจากทั้ง 2 ระบบ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2 แสนราย โดยนอกจากจะเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข้อมูล และกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นภายในศูนย์แล้ว ยังถือเป็นช่องทางส่งเสริมการตลาดอีกทางหนึ่ง ซึ่งมีการนำเสนอโปรโมชั่นจากร้านอาหารต่างๆ ในเครือของอิมแพ็ค รวมถึงโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ อิมแพ็ค ร้านค้า และร้านอาหารอื่นๆ ที่เข้าร่วมรายการ ซึ่งในขณะนี้ เริ่มมีลูกค้าให้การตอบรับ และติดตามกิจกรรมโปรโมชั่น ต่างๆ เพิ่มมากขึ้นทุกๆ เดือน

สำหรับ อิมแพ็ค แอพพลิเคชั่น ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาอีเว้นท์ที่จัดขึ้นภายในศูนย์ได้ทั้งแบบ รายการกิจกรรม และแบบปฏิทินการจัดงาน  โดยสามารถเลือกใช้ได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ  ส่วนการแสดงผล ระบบจะโชว์ วัน  เวลา สถานที่ และรายละเอียดของการจัดงาน  นอกจากนี้ยังมีลิ้งค์เว็บไซด์ของงาน หรือของผู้จัดงานไว้ให้ด้วย ซึ่งในส่วนของงานคอนเสิร์ต ผู้ใช้ก็สามารถคลิ๊กที่ลิ้งค์เพื่อจองตั๋วชมคอนเสิร์ต หรือแชร์ข้อมูลของงานผ่านเฟซบุ๊คได้  นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกให้ ผู้ใช้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ ผ่านเฟซบุ๊คของอิมแพ็คได้อีกด้วย  โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้ได้ฟรีจากเพลสโตร์ (Play Store) ของระบบแอนดรอยด์ได้แล้ววันนี้   หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2833-5065

ทั้งนี้ อิมแพ็ค ถือเป็นศูนย์การประชุมและนิทรรศการแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้มีการเปิดตัวแอ พลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผู้เข้าชมงานในศูนย์ โดยนอกจากช่องทางบนสมาร์ทโฟนแล้ว ลูกค้ายังสามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมและสื่อสารกับทางอิมแพ็ค ได้ทั้งเฟชบุ๊ค ทวิตเตอร์ ยูทูป และอินสตาแกรม อีกด้วย โดยปัจจุบันอิมแพ็คมีจำนวนแฟนเพจบนเฟชบุ๊คแล้วกว่า 2 หมื่นราย

-จบ-

ทีเอฟซี ลงนาม MOU เลือกอิมแพ็ค อารีน่า เป็นสถานที่จัดการแข่งขันเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมป์โลก 2013




(พฤศจิกายน 2555) ทีเอฟซี ประกาศความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมป์โลก 2013 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดของการแข่งขันกีฬาเชียร์ลีดดิ้งใน ประเทศไทย ล่าสุดลงนาม MOU เลือก อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน ด้วยเป็นอาคารมาตรฐานจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติหลายรายการ และยังครบครันด้วยบริการสิ่งอำนวยความสะดวก เชื่อสามาถรองรับนักกีฬาและตัวแทนจาก 40 ประเทศ ที่ตอบรับเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี

ดร.อาทิตย์  อุไรรัตน์ ประธานสหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทย หรือ ทีเอฟซี (Thailand Federation of Cheerleading: TFC) เปิดเผยว่า ประเทศไทย ได้รับเลือกจากสหพันธ์เชียร์ลีดดิ้งนานาชาติ หรือ ไอเอฟซี (International Federation of Cheerleading: IFC) ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมป์โลก 2013 หรือ 7th Cheerleading World Championship 2013 เนื่องจากเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยที่มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งสถานที่ บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงระบบการขนส่งต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน  นอกจากนี้ ยังรวมถึงการทำงานร่วมกันกับองค์กรภาครัฐอย่าง กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ให้ความสำคัญกับกีฬาเชียร์ลีดดิ้ง ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างการผลักดันเข้าเป็นกีฬาที่แข่งขันในระดับโอลิมปิค การสนับสนุนกีฬาเชียร์ลีดดิ้งอย่างจริงจังของภาครัฐของไทยจึงเป็นอีกเหตุผล สำคัญที่ทำให้ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้ด้วย
พร้อมกันนี้คณะกรรมการตรวจความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้มีมติ เลือกอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เป็นสถานที่จัดการแข่งขันเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมป์โลก 2013 ด้วยมีความพร้อมและเป็นอาคารที่ได้มาตรฐานสำหรับจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานา ชาติ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬามาแล้วหลายรายการ เช่น การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ การแข่งขันเทนนิส ไทยแลนด์ โอเพ่น การแข่งขันชกมวยไทยชิงแชมป์โลก เป็นต้น และในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU ระหว่างสหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทยและบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในการใช้ เป็นสถานที่จัดการแข่งขันเชียร์ลีดดิ้งชิงแชมป์โลก 2013 ในเดือนพฤศจิกายน 2556 เป็นที่เรียบร้อย สำหรับการแข่งขันครั้งนี้มีประเทศที่ตอบรับเข้าร่วมทำการแข่งขันแล้ว 40 ประเทศ อาทิ จีน เยอรมนี ไทเป เอกวาดอร์ สิงคโปร์ กรีซ ฮ่องกง โปแลนด์ รัสเซีย สโลวาเนีย เป็นต้น
ดร.อาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติม ว่า “กีฬาเชียร์ลีดดิ้ง เป็นกีฬาที่ปลูกฝังให้เยาวชนให้รู้จักความสามัคคี สร้างความมีน้ำใจ ด้วยทักษะกีฬาที่ถูกต้อง ไม่ใช่แค่การเต้นเพื่อความพร้อมและความสวยงามเท่านั้น ทางสหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซึ่ง จะถึงในอีกไม่ช้านี้ และเพื่อพัฒนากีฬาเชียร์ลีดดิ้งของไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก ทางสหพันธ์ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชาวไทยทุกคนจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ และร่วมกันเชียร์นักกีฬาเชียร์ลีดดิ้ง  เพื่อให้กีฬาประเภทนี้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเหมือนเช่นกีฬาอื่นๆ ในประเทศไทยต่อไป
ด้านนายลอย จูน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า  “อิมแพ็ค ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเชียร์ลีดดิ้ง ชิงแชมป์โลก 2013 และพร้อมที่จะสนับสนุนสหพันธ์กีฬาเชียร์ลีดดิ้งประจำประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เล็งเห็นความสำคัญและโอกาสในการเติบโตของ กีฬาเชียร์ลีดดิ้งของไทย ซึ่งการจัดการแข่งขันโดยไทยเป็นประเทศเจ้าภาพครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการ พัฒนาและยกระดับวงการกีฬาเชียร์ลีดดิ้งประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับจากนานา ประเทศด้วย”
สำหรับ อิมแพ็ค อารีน่า ถือเป็นอาคารอเนกประสงค์ที่ออกแบบก่อสร้างและจัดวางระบบสาธานูปการอย่าง เหมาะสม ทั้งการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบไฟฟ้า แสงสว่าง ระบบความเย็น ระบบรักษาความปลอดภัย ภายใต้มาตรฐานสากล บนพื้นที่มากกว่า 4,000 ตารางเมตร สามารถจุผู้ชมได้กว่า 11,000 ที่นั่ง จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับนักกีฬาเชียร์ลีดดิ้งผู้ร่วมแข่งขัน ตลอดจนผู้ชมจากทั่วโลกที่เดินทางมาชมการแข่งขันครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี