Wednesday 27 March 2013

อิมแพ็ค ร่วมส่งมอบความสุขแด่ทุกคู่รักด้วยโปรโมชั่นวิวาห์สุดพิเศษ



อิมแพ็ค เมืองทองธานี สถานที่ซึ่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่ดีเยี่ยมครบครันกับ 52 ห้องจัดเลี้ยงที่หลากหลายพร้อมการตกแต่งอย่างสวยหรูและสง่างาม สามารถรองรับแขกผู้ร่วมงานได้ตั้งแต่ 100-3,500 ท่าน ขอร่วมส่งมอบความสุขแด่ทุกคู่รักด้วยโปรโมชั่นวิวาห์สุดพิเศษ สำหรับคู่ที่เลือกจองแพ็คเกจจัดงานวิวาห์ ในแบบค็อกเทลราคาสุทธิเริ่มต้นที่ 690 บาท* สำหรับแขกร่วมงาน 150 ท่านขึ้นไป รับฟรี ฮันนีมูนดินเนอร์ พร้อมห้องพักสุดหรู ณ ยายย่า รีสอร์ท หัวหิน 2 วัน 1 คืน และหากการันตียอดแขกร่วมงาน  1,000 ท่านขึ้นไป รับฟรีทันที ฮันนีมูนทริป ด้วยแพ็คเกจเดินทางท่องเที่ยว พร้อมที่พักโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว 3 วัน 2 คืน ณ ประเทศมาเก๊า สิทธิพิเศษนี้สำหรับคู่รักที่เลือกจองห้องจัดเลี้ยงภายใน 30 เมษายน 2556 นี้เท่านั้น สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2833-5252


สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร                                                                                                        
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด                                                                                  โทร.0-2833-5061/ 5073 / 5077
(จินตนา / สวภัทร์ / สุภาพร) 
(*ราคาสุทธิต่อท่าน รวมเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และสามารถกำหนดจัดงานตามต้องการในปี 2556)

Tuesday 19 March 2013

อิ่มอร่อยกับสุกี้บุฟเฟ่ต์และอาหารชุดสุดคุ้ม สไตล์ฮ่องกง ที่ฮ่องกง สุกี้ เริ่มต้น 399


ร้านอาหารฮ่องกงสุกี้ ที่สุโขทัยอเวนิว 99 เมืองทองธานี แนะนำรายการอาหารสุดคุ้ม ทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และเซ็ทเมนูให้เลือกอิ่มอร่อย โดยสุกี้บุฟเฟ่ต์สไตล์ฮ่องกง พร้อมน้ำซุป 3 รสชาติ และวัตถุดิบสดใหม่ อิ่มอร่อยจุใจได้ในราคาเริ่มต้นที่ 399 บาท สำหรับเซ็ทเมนู มีโปรโมชั่นให้เลือก 3 ชุด ในช่วงเวลาตั้งแต่ 11.00-15.00 น. โดยชุดสำหรับ 1 ท่าน ประกอบด้วย ซุปประจำวัน ขนมจีบหมู ข้าวผัดหยางเจา และเครื่องดื่ม 1 ที่ ในราคา 199 บาท ชุดสำหรับ 2-3ท่าน ประกอบด้วย ซุปประจำวัน ออเดิร์ฟ ร้อนรวมมิตร, ผัดผักคะน้าน้ำมันหอย, บะหมี่ผัดฮกเกี้ยน และเครื่องดื่ม 2 ที่ ราคา 399 บาท และชุดสำหรับ 3-4 ท่าน ราคา 499บาท ร้านฮ่องกง สุกี้ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา   11.00 – 21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.  0-2-503-4408

สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
โทร.0-2833-5061-5073-5076
จินตนา/ สวภัทร์ / จิราพร

พฤกษา อารีน่า เบียร์ การ์เด้น @ อิมแพ็ค เมืองทองธานี


พบกันเช่นเคยกับอารีน่า เบียร์ การ์เด้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่คราวนี้เกาะกระแสลดโลกร้อน อินเทรนด์ ในธีมพฤกษา ตกแต่งบรรยากาศลานเบียร์ให้ร่มรื่นเขียวชอุ่มด้วยไม้ใบนานาพันธุ์ พร้อมดนตรีสดฟังสบายทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน เสิร์ฟความบันเทิงยามค่ำคืนทั้งเครื่องดื่มและอาหารอีสานรสแซ่บต้อนรับงาน มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 34 เริ่ม 25 มีนาคม – 7 เมษายน 2556 นี้ ห้ามพลาด!!

สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
โทร.0-2833-5061, 5073, 5076
จินตนา / สวภัทร / จิราพร
 

ไทยมั่นใจยกระดับมาตรฐานสปาสู่ตลาดโลก

 

    
กรุงเทพฯ -  สมาคมสปาไทย ผนึกกำลัง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เตรียมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จเป็นปีที่สอง เป็นเจ้าภาพเปิดงาน “World Spa & Well-being Convention 2013” มหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านธุรกิจสปา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการด้านธุรกิจสปาและสุขภาพทั่วโลก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจสปาแห่งภูมิภาค โดยงานนี้ได้รวบรวมนวัตกรรม ความรู้ และมาตรฐานของธุรกิจสปาเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจสปาและสุขภาพ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 กันยายน 2556 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

ในปีนี้ คณะผู้จัดงานฯ คาดว่า World Spa & Well-being Convention 2013 จะได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 5,000 คน และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงสินค้าและบริการกว่า 100 บริษัท
แอนดรู แจคก้า นายกสมาคมสปาไทย เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมสปามีความเกี่ยวพันกับน้ำเป็นอย่างมาก ในปีนี้ เราจึงจัดงานฯ ภายใต้แนวคิดของ “ธาตุน้ำ” โดยคณะผู้จัดงานฯ จะถ่ายทอดแนวคิดดังกล่าวออกมาในทุกส่วนของงาน ครอบคลุมทั้งงานแสดงสินค้า งานสัมมนา และงานประกาศรางวัล  เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสปาและสุขภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์และ ศิลป์ของน้ำ ตั้งแต่การให้กำเนิดตลอดจนความสัมพันธ์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์” คุณ แอนดรู ยังกล่าวเสริมอีกว่า “งานนี้จะช่วยเปิดโลกทัศน์ของคุณ เพื่อให้เข้าใจว่าน้ำในแต่ละสถานะ (ก๊าซ ของเหลว และของแข็ง) มีประโยชน์ และเกี่ยวข้องกับธุรกิจสปาและสุขภาพอย่างไร โดยในงานสัมมนา เราจะมีกูรูทางด้านสปาและสุขภาพถึง 9 ท่าน จากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อมาให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ ที่ผู้ประกอบการและบุคคลที่สนใจในอุตสาหกรรมสปาและสุขภาพไม่ควรพลาด”

งาน “World Spa & Well-being Convention 2013” จะจัดขึ้นทั้งสิ้น 4 วัน โดยจะประกอบไปด้วยงานสัมมนา 2 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมฯ ได้พบปะและเจรจาธุรกิจโดยตรง พร้อมแนะนำและแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจในการประกอบธุรกิจสปา รวมไปจนถึงการตามติดนวัตกรรมใหม่ๆ การรวบรวมไฮไลท์เด็ดๆ ไว้อย่างมากมาย อาทิ การลงทะเบียนตามธาตุ โซนแห่งการเรียนรู้ มุมที่ปรึกษาด้านสปา โซนบูธนานาชาติ และกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ สมาคมสปาไทยยังได้จัดงานประกาศรางวัล Thailand Spa & Well-being Awards ขึ้นเป็นปีที่สอง เพื่อส่งเสริมมาตรฐานอุตสาหกรรมสปาไทย และเฉลิมฉลองให้แก่ผู้ประกอบการสปาและสุขภาพของไทยในบรรยากาศผสมผสานแบบไทย และนานาชาติ

นางสาวภัททิราพร เขียวสนั่น อุปนายกสมาคมสปาไทย กล่าวเสริมว่า “อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมสปาเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้สปาเป็นธุรกิจที่ดึงดูดนักลงทุนและกลายเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมท่อง เที่ยวในปัจจุบัน งาน World Spa &    Well-being Convention 2013 นี้มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในตลาดสปาโลก โดยการยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน ส่งเสริมนวัตกรรมด้านการบริการ และจัดแสดงสินค้า ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้สนใจและผู้ประกอบการธุรกิจสปาที่จะ สร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างกัน ด้วยรูปแบบการจัดงานคือ Education, Standards & Innovation ซึ่ง World Spa & Well-being Convention 2013 จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม สปาและสุขภาพ เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต”

เตรียมพบกับงาน “World Spa & Well-being Convention 2013” ได้ระหว่างวันที่ 18 - 21 กันยายน 2556 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จองบูธหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ คุณณิชาพร พงษ์สนาม โทร 02-833-5215 แฟ็กซ์ 02-833-5127-9  อีเมล์: nichapornp@impact.co.th หรือเข้าชมเว็บไซต์ของงานที่ www.worldspawellbeing.com
 
สื่อประชาสัมพันธ์ กรุณาติดต่อ
หน่วยงานการตลาด: คุณภรินธร อัศวเลิศไพบูลย์ โทรศัพท์ 02-833-5312 อีเมล์ parintornu@impact.co.th

อิมแพ็ค ทุ่ม 10 ล้านขานรับนโยบายรัฐวางมาตรการประหยัดพลังงานป้องกันวิกฤตเดือนเมษายน

Published : 2013-03-05

อิมแพ็ค ขานรับนโยบายรัฐวางมาตรการประหยัดพลังงานป้องกันเหตุวิกฤตเดือนเมษายน เริ่มจากการสำรวจ วิเคราะห์ พร้อมทุ่มงบเกือบ 10 ล้านบาท พัฒนาระบบและเลือกใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ย้ำแม้เกิดเหตุจริงมั่นใจไม่มีผลกระทบกับศูนย์ฯ ด้วยได้ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวงวางแผนรับมืออย่างดี และช่วงเวลาดังกล่าวมีการจัดงานน้อย อีกทั้งมั่นใจกับมาตรการที่วางไว้ตาม มอก.50001 ซึ่งมีประสิทธิภาพส่งผลให้ปี 55 ลดค่าไฟฟ้าได้แล้วถึง 21 ล้านบาท 

นายพอลล์  กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า ตามที่ภาครัฐได้ออกมาขอความร่วมมือทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดพลังงาน ด้วยคาดการณ์กรณีที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า จะปิดปรับปรุงแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ในช่วงวันที่ 4-12 เมษายน 2556 ซึ่งอาจจะกระทบกับการส่งก๊าซผลิตกระแสไฟฟ้าในไทย ทำให้ช่วงนั้นไทยต้องเจอกับวิกฤตไม่มีไฟฟ้าใช้ ทาง อิมแพ็ค ตระหนักและให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง

เบื้องต้นได้วางมาตรการประหยัดพลังงานของศูนย์ฯ โดยเริ่มจากการสำรวจอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานทั้งหมดของศูนย์เพื่อหาสัดส่วนของ การใช้พลังงานไฟฟ้าและความร้อน อุปกรณ์ชนิดใดบ้างมีการใช้พลังงานมากที่สุดจนถึงน้อยที่สุด ซึ่งพบว่าโดยเฉลี่ยสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 90% และความร้อนอยู่ที่ 10% หลังจากนั้นได้มาวิเคราะห์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในศูนย์ฯ 90% มาจากระบบปรับอากาศ 56% ไฟฟ้าแสงสว่าง 16% ร้านค้า 4% ครัว 6% ไฟบูธเอ็กซิบิชั่น 8% และอื่นๆ อีก 10% ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อมูลแล้วจึงนำมาวิเคราะห์และกำหนดมาตรการประหยัดพลังงานที่จะ ดำเนินการทันที

โดยเน้นในส่วนของมาตรการที่ไม่ต้องลงทุนเป็นอันดับแรก เช่น การปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติงาน การใช้ระบบเปิดปิดไฟฟ้าเป็นเวลา การใช้สวิทซ์ไฟกระตุก การลดใช้ในส่วนที่ไม่จำเป็น เป็นต้น และหลังจากนั้นได้พิจารณามาตรการที่ลงทุนน้อยไปจนถึงมากในการจัดหาระบบและ เทคโนโลยีเพื่อช่วยลดค่าพลังงานไฟฟ้าในศูนย์ฯ ภายใต้งบลงทุนรวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท ได้แก่ 1.) การปรับเปลี่ยนระบบเซนเซอร์ มาใช้ในการควบคุมการทำงานระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ซึ่งสามารถปรับความแรงของลมได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ใกล้เคียงความจริง มากกว่าการใช้คนวัดอุณหภูมิและปรับตั้งค่าความเย็น งบประมาณ 9 แสนบาท 2.) ระบบไฟแสงสว่าง อิมแพ็ค ได้เปลี่ยนมาใช้หลอด LED โดยคาดว่าปี 2556 บริษัทฯ จะทยอยเปลี่ยนหลอดไส้แบบเดิมเป็นหลอด LED แทนได้ทั้งหมด งบประมาณ 3 ล้านบาท 3.) ระบบควบคุมไฟแสงสว่าง บริษัทฯ จะดำเนินการแยกระบบไฟแสงสว่างให้สามารถเปิดได้อิสระแบบ 1 ดวงต่อ 1 สวิทซ์ ซึ่งใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท และสุดท้ายการติดตั้งเครื่อง Chiller หรือเครื่องทำความเย็นในระบบปรับอากาศ ใหม่โดยเลือกใช้ chiller ที่มีประสิทธิภาพสูงมาติดตั้งในพื้นที่เพิ่มเติมใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท

นายพอลล์ กล่าวเสริมว่า ในปี 2555 อิมแพ็ค สามารถประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 21 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 13 ล้านบาท จากยอดการจัดงานเฉลี่ยต่อปี 800 งาน มีค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้ารวม 150 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสิ่งสำคัญและถือเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้ อิมแพ็ค ประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้าได้สำเร็จมาจากการประกาศดำเนินงานตาม มอก.50001 หรือมาตรฐานด้านการประหยัดพลังงาน เมื่อปี 2554 มาอย่างต่อเนื่อง และอีก 3 ปัจจัยสำคัญ คือ 1.การให้การสนับสนุนของคณะผู้บริหารระดับสูงที่เล็งเห็นความสำคัญในการ ประหยัดพลังงาน ปัจจัยที่ 2 การสร้างยอดขายพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นของฝ่ายขายทำให้การใช้พลังงานมีความคุ้ม ค่ามากขึ้น และปัจจัยสุดท้ายคือการให้ความร่วมมือที่ดีและการมีส่วนร่วมของพนักงานภายใน บริษัทและความร่วมมือจากความเข้าใจเรื่องการช่วยประหยัดพลังงานของลูกค้า

อย่างไรก็ตาม หากเกิดวิกฤตพลังงานไฟฟ้าในเดือนเมษายนตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับศูนย์ฯ  ด้วยอิมแพ็คได้เตรียมมาตรการป้องกันเหตุไฟฟ้าขัดข้องดังกล่าวไว้เป็นอย่างดี กอรปกับช่วงเวลาดังกล่าวพื้นที่อิมแพ็คมียอดจองจัดงานเพียง 9 งาน โดยเป็นงานประชุม สัมมนา งานแสดงคอนเสิร์ต และงานแต่งงาน ซึ่งยอดจัดงานสิ้นสุด ณ วันที่ 9 เมษายน 2556 หลังจากนั้นเป็นช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ทำให้ไม่มียอดจองจัดงานและจะเริ่มจะ จัดงานอีกครั้งหลังสงกรานต์ แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาททางอิมแพ็คได้ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง เขตนนทบุรี วางมาตรการป้องกันเหตุแล้วขณะนี้

โดยในส่วนของการไฟฟ้านครหลวงแจ้งว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ได้วางมาตรการป้องกันหลักๆ ไว้แล้ว อาทิ การเตรียมพร้อมน้ำมันเตา, น้ำมันดีเซล และอื่นๆ สำหรับผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซ และหากเกิดเหตุกำลังผลิตไฟฟ้าไม่พอเพียงเกิดขึ้นจริง การไฟฟ้านครหลวง เขตนนทบุรี จะทำการปลดสายป้อนไฟฟ้าในพื้นทีที่ไม่ใช่เขตธุรกิจออกบางส่วนก่อน เพื่อคงไฟฟ้าให้เขตธุรกิจใช้งานได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ โดยเฉพาะศูนย์อิมแพ็ค จะไม่มีผลกระทบโดยเด็ดขาด

สำหรับอิมแพ็คขณะนี้ได้แจ้งกับลูกค้าเพื่อทราบถึงมาตรการเตรียมความพร้อมรับ มือกับเหตุดังกล่าว เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจกับการจัดงานตามกำหนดเดิมพร้อมขอความร่วมมือลูกค้าให้ เข้าใจในมาตรการประหยัดพลังงาน โดยแจ้งรายละเอียดถึงการดำเนินงาน เช่น การลดชั่วโมง Pre Cool ลงจาก 2 ชั่วโมง เหลือ 1 ชั่วโมง ก่อนเวลาเปิดแสดงงาน การปิดเครื่อง Chiller ก่อนเวลาปิดระบบปรับอากาศให้เร็วขึ้นจาก 30 นาทีก่อนเวลาปิดแสดงงานเป็น 45-60 นาทีตามเหมาะสม การปรับตั้งอุณหภูมิความเย็นจากเดิมไว้ที่ 23-24 องศา เป็น 25-26 องศา และสุดท้ายการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบห้องต่างๆ ว่าได้ทำการปิดแอร์ และไฟแสงสว่างโดยทันทีเมื่อเลิกใช้งาน ซึ่งลูกค้าผู้จัดงานรับทราบและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
 
-จบ-
 
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
สำนักงานฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
จินตนา  พงษ์ภักดี
โทร:
+66 (0) 2833 5061
อีเมล์:
 jintanap@impact.co.th
สวภัทร์  พิมพ์ใจชน
โทร:
+66 (0) 2833 5073
อีเมล์:
 sawapatp@impact.co.th
สุภาพร  บุญขาว
โทร:
+66 (0) 2833 5077
อีเมล์:
 supapornb@impact.co.th

Monday 4 March 2013

อิมแพ็ค ผนึก โซเด็กซ์โซ่ ขยายไลน์ธุรกิจรับบริหารจัดการอาคารสถานที่ และสาธารณูปโภคบนพื้นที่เมืองทองธานี

บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้นำธุรกิจศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอันดับหนึ่งของไทยขยายไลน์ธุรกิจ รับบริหารจัดการอาคาร สถานที่ และสาธารณูปโภคบนพื้นที่เมืองทองธานี โดยร่วมมือกับโซเด็กซ์โซ่ กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการบริหารจัดการชั้นนำจากฝรั่งเศส ภายใต้ชื่อ The Satellite City สร้างความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้คนในชุมชนกว่า 2 แสนคน
นายพอลล์  กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากที่บางกอกแลนด์ ซื้อหุ้นอิมแพ็คกลับคืนมาเกือบทั้งหมดแล้ว ทางบริษัทฯ ได้วางแผนพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ขยายธุรกิจสู่การบริหารจัดการอาคาร สถานที่ สาธารณูปการและการพัฒนาชุมชนเมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์  The Satellite City เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสมบูรณ์แบบสำหรับผู้คนที่อยู่อาศัยในพื้นที่เมืองทองธานีซึ่งมีมากกว่า 2 แสนคน พร้อมกันนี้เป็นการสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่เดินทางมาเยือนเมืองทองธานีซึ่งมีกว่า 16 ล้านคนต่อปีด้วย
โดยการขยายไลน์ธุรกิจครั้งนี้ อิมแพ็ค ได้ร่วมกับบริษัท โซเด็กซ์โซ่ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการสาธารณูปโภคชั้นนำระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส มาร่วมเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์สำหรับการบริหารจัดการอาคาร สถานที่ สาธารณูปการให้กับโครงการพัฒนาทางธุรกิจต่างๆ ของบางกอกแลนด์ในพื้นที่เมืองทองธานี ซึ่งได้เริ่มเข้าบริหารจัดการโครงการของบางกอกแลนด์ ที่ได้เปิดบริการแล้ว คือ  ศูนย์การค้า สุโขทัย อเวนิว 99 และอีก 2 โครงการซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ได้แก่ ดับเบิ้ล เลค คอนโดมิเนียม และบีไฮฟ์ (Bee Hive) ซึ่งเป็นโครงการไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์  มีกำหนดสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดบริการช่วงระหว่างปี 2556/2557”
“หลักการบริหารจัดการสาธารณูปโภคดังกล่าว จะเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าทั้งผู้ซื้อที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ซึ่งต่างต้องการการบริการที่คลอบคลุม 3 ประการหลัก ได้แก่ 1. การบริหารจัดการและบำรุงรักษาอาคาร สถานที่ ระบบสาธารณูปการ ไฟฟ้า น้ำปะปาอย่างครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพ 2. การรักษาความปลอดภัย และ 3. ความสะอาดทั้งภายในและภายนอกอาคาร  ซึ่งรวมถึงการดูแลภูมิทัศน์โดยรอบให้ดูเรียบร้อยและสวยงาม  ทั้งนี้ อิมแพ็ค รับประกันในเรื่องการให้บริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยในและผู้ที่มาเยือนเมืองทองธานีเกิดความมั่นใจในบริการแบบครบวงจร” นายพอลล์ กล่าวเพิ่มเติม
นายสจ๊วต วินเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย กล่าวว่า “โซเด็กซ์โซ่  ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการอาคาร สถานที่ สาธารณูปโภค ไฟฟ้า ให้กับ อิมแพ็ค มาตั้งแต่ปี 2551 และปัจจุบันได้ให้การบริการด้านเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเพิ่มขึ้น   ด้วยความเชี่ยวชาญและการได้รับความไว้วางใจจากหลายองค์กรทั่วโลกที่เลือกให้โซเด็กซ์โซ่ให้เป็นผู้บริหารจัดการ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า โซเด็กซ์โซ่พร้อมที่จะให้บริการแก่โครงการอสังหาริมทรัพย์ของบางกอกแลนด์ได้ดีที่สุด พร้อมทั้งเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เหมาะสมกับอิมแพ็ค เพื่อส่งเสริมงานบริหารจัดการอาคารและสถานที่ เกิดความสมบูรณ์แบบที่สุดภายใต้มาตรฐานระดับสากลต่อไป”
“ปัจจุบันเมืองทองธานีถูกจับตามองในด้านการพัฒนาในส่วนต่าง ๆ   ตั้งแต่การพัฒนาด้านสภาพแวดล้อม และ ด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การสร้างถนนเพิ่มเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มมากขึ้น การติดตั้งไฟส่องสว่างริมถนน ไปจนถึงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา  มีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหม่ๆ เข้ามาลงทุนในเมืองทองธานีเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยอย่างถาวรมากกว่า 200,000 คน นอกจากนี้ยังมีสำนักงานและบริษัทต่างๆ มากมาย อาทิ ธนาคารกสิกรไทย  กระทรวงกลาโหม และบริษัท ทรู คอร์ปเปอเรชั่น   ซึ่งในฐานะที่ อิมแพ็คเป็นผู้ประกอบธุรกิจรายใหญ่ที่สุดในเมืองทองธานี กอร์ปกับความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ  ทำให้ อิมแพ็ค สามารถให้บริการเพื่อช่วยส่งเสริมธุรกิจต่างๆ เหล่านั้น ได้เป็นอย่างดี” นายพอลล์ กล่าวสรุป