Saturday 31 August 2013

อิมแพ็คฯแต่งตั้งให้กสิกรไทย และเมย์แบงก์ กิมเอ็งเป็นที่ปรึกษาและผู้จัดการการจัดจำหน่ายกองรีทส์อิมแพ็คโกรท มูลค่าร่วม20,000 ล้านบาท

อิมแพ็คฯแต่งตั้งให้กสิกรไทย และเมย์แบงก์ กิมเอ็งเป็นที่ปรึกษา
และผู้จัดการการจัดจำหน่ายกองรีทส์อิมแพ็คโกรท
มูลค่าร่วม20,000 ล้านบาท
 เป็นกองแรกของประเทศไทย
อิมแพ็คฯยื่นคำขอจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เป็นกองแรกของประเทศไทย มูลค่าร่วม20,000 ล้านบาท โดยให้กสิกรไทย และเมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นที่ปรึกษาและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วมคาดเสนอขายให้นักลงทุนในช่วงไตรมาสสี่ของปีนี้หวังนำเงินไปพัฒนาเพิ่มเติม ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค
 
นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า "เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ยื่นคำขอจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITที่ผู้ลงทุนในกองรีทส์นั้นจะได้รับผลตอบแทนอย่างดีเยี่ยมและเปรียบเสมือนเป็นเจ้าของทรัพย์สินในศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เช่นกัน
"ประโยชน์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITนั้นมีหลายประการรวมถึงกองทรัสต์จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล  ทั้งนี้กองทรัสต์ฯจะทำการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เป็นประจำทุกปี" นายอนันต์ กล่าว
 
“เราจะดำเนินการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยกลุ่มบริษัทบางกอกแลนด์จะยังคงกลับมาลงทุนในฐานะผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตราร้อยละ 50ของหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายทั้งหมดซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของทรัพย์สินที่กองรีทส์จะทำการลงทุน พร้อมทั้งมอบหมายให้บริษัทอิมแพ็คฯ ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารทรัพย์สินเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาทางบริษัทอิมแพ็คฯ ได้ทำหน้าที่บริหารโครงการได้อย่างโดดเด่น ซึ่งทำให้โครงการอิมแพ็คฯ เป็นโครงการศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้าอันดับหนึ่งทั้งในประเทศไทย และในระดับอาเซียน พร้อมทั้งดำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการอิมแพ็คฯทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความทันสมัยและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการในโครงการฯ ได้เป็นอย่างดีและในปีนี้บริษัทฯคาดว่าโครงการอิมแพ็คจะสร้างรายได้ประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาก”
 
นายอนันต์กล่าวว่า  “ผมยังรู้สึกภาคภูมิใจที่บริษัทอิมแพ็คฯเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทในประเทศไทยที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมด ทั้งที่ดิน และอาคารต่างๆ ของโครงการอิมแพ็คฯโดยที่บริษัทอิมแพ็คฯไม่มีหนี้เงินกู้แต่อย่างใด กล่าวได้ว่าเป็นบริษัทฯที่ปลอดหนี้อย่างสมบูรณ์  ทำให้เรามั่นใจว่าผู้ลงทุนจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินทั้งที่ดินและตัวอาคารในทุกๆ ปี”
 
“การจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ ถือเป็นวิสัยทัศน์ในระยะยาวของบริษัทอิมแพ็คฯ ในการเตรียมความพร้อม ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่การเปิดตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งทางบริษัทฯมีความต้องการที่จะขยายการลงทุนในศูนย์ประชุมและศูนย์แสดงสินค้าเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น และบริษัทฯตั้งใจจะพัฒนาให้โครงการอิมแพ็คเป็นส่วนหนึ่งในความภาคภูมิใจของประเทศไทย
 
การจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้นับว่าเป็นการดำเนินการที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างได้รับประโยชน์ และนับเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจมากแก่นักลงทุน”นายอนันต์ กล่าวสรุป
 
นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนเจนเม้นท์ จำกัด ได้แต่งตั้งให้ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย ปฎิบัติหน้าที่เป็นทรัสตี ให้แก่กองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (IMPACT Growth Real Estate Investment Trust) มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่จะออกเสนอขายแก่นักลงทุนเป็นกองแรกในประเทศไทย
 
กองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยทรัสต์ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันภายในประเทศ ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ และผู้ลงทุนรายย่อย ผ่านธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประมาณไตรมาสสี่ของปี 2556 ธนาคารมีความมั่นใจว่าการเสนอขายหน่วยทรัสต์สำหรับกองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากมีรูปแบบการลงทุนที่มีความคล้ายคลึงกับการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ซึ่งนักลงทุนรู้จักและเข้าใจเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
 
นายธีรนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT:Real Estate Investment Trust) เป็นทางเลือกการลงทุนรูปแบบใหม่ในประเทศไทยโดยการนำทรัพย์สินมาจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำมาใช้แทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดิม โดยรูปแบบการลงทุนของกองทรัสต์นั้น มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นรูปแบบที่มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การไม่กำหนดประเภทของทรัพย์สินที่กองทรัสต์สามารถลงทุนได้ รวมถึงรูปแบบการกำกับดูแลที่มีความเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับรูปแบบของการลงทุนให้เหมือนกับประเทศอื่นๆ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยกองทรัสต์จะทำการระดมทุนจากผู้ลงทุน เพื่อนำเงินที่ได้ไปซื้อ/เช่าทรัพย์สิน เมื่อทำการซื้อ/เช่าทรัพย์สินแล้วกองทรัสต์ก็จะเปรียบเสมือนกองทรัพย์สิน โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่ได้จ่ายเงินลงทุนครั้งแรก เมื่อจัดตั้งกองทรัสต์แล้วเสร็จก็จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าว ตามสัดส่วนของหน่วยทรัสต์ที่ถือ โดยมีผู้จัดการกองทรัสต์ทำหน้าที่ในการนำสินทรัพย์นั้นไปหาประโยชน์โดยการให้เช่า/ให้บริการ เมื่อกองทรัสต์ได้รับผลกำไรก็จะนำไปจ่ายปันผล โดยทาง กลต. ได้กำหนดให้จ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิของแต่ละปีให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยในปัจจุบันกองทรัสต์ที่สามารถออกและเสนอขายนั้นมีเพียงประเภทเดียวคือ กองทรัสต์ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ทั้งนี้การลงทุนในรูปแบบของกองทรัสต์ยังคงรักษาประโยชน์ที่สำคัญสำหรับนักลงทุน คือ ไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเหมือนกับการลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำให้มีทางเลือกในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้หลากหลายมากขึ้น ในขณะเดียวกันนักลงทุนก็จะมีความมั่นใจในการได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงภายใต้การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของผู้เชี่ยวชาญ”
 
“การจัดตั้งกองรีทส์ให้สมบูรณ์ได้นั้น องค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การจัดให้มีผู้ดูแลผลประโยชน์หรือ ทรัสตีสำหรับกองรีทส์ ซึ่งในครั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด มีความพร้อมที่จะปฎิบัติหน้าที่การเป็นทรัสตีอย่างเต็มกำลัง โดยในปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการขออนุญาตจากสำนักงาน กลต.
นายธีรนันท์ กล่าวเสริม
 
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จะลงทุนในกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สิน (Freehold) ในศูนย์จัดการแสดอิมแพ็คอารีน่า (IMPACT Arena) ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติรวมถึงสถานที่สำหรับจัดงานในร่ม (IMPACT Exhibition Center) ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม (IMPACT Forum) พร้อมทั้งอาคารจอดรถ P2 และอาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ (IMPACTChallenger)  ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติอันดับหนึ่งของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีความมั่นคงของธุรกิจและมีรายได้อย่างต่อเนื่อง
 
ทั้งนี้ หลังจากที่กองรีทส์อิมแพ็คโกรทลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวแล้วบริษัทอิมแพ็คฯ จะทำหน้าที่เป็น ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) ของกองทรัสต์ และบริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 100 % ของบริษัทอิมแพ็คฯจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager)
 
ในภาวะการลงทุนปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนมากขึ้นและได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ  หน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) จะเป็นเครื่องมือการลงทุนใหม่ในประเทศไทย และจะเป็นทางเลือกของการลงทุนที่มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการผลตอบแทนในรูปของส่วนต่างของราคาหน่วยลงทุน (Capital Gain) และเงินปันผลที่ค่อนข้างสม่ำเสมอและมั่นคง และอาจถือได้ว่าเป็นเครื่องมือการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่สามารถชนะอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น การลงทุนในหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์อิมแพ็คโกรทเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์น่าจะสร้างผลตอบแทนในระยะยาวในระดับที่ดีให้แก่ผู้ลงทุนระยะยาว(Long-term Investors) และน่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นในต่างประเทศมีความผันผวนค่อนข้างสูง จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของอเมริกา ยุโรป จีนและประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของโลก
 
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
จินตนา พงษ์ภักดี      
โทร  : 02 833 5061 / 081 640 0497

ธนาคารกสิกรไทย
ส่วนบริหารเครือข่ายสื่อ
ฝ่ายสื่อสารและองค์การสัมพันธ์       โทร : 02 470 2654-8

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ฝ่ายวาณิชธนกิจ                โทร : 02 658 6300 ต่อ 1713 / 1715

Friday 23 August 2013

ทีมเชฟอิมแพ็คคว้าชัยชนะครองถ้วยรางวัลจากงาน TRAFS 2013

ทีมเชฟอิมแพ็คคว้าชัยชนะครองถ้วยรางวัลจากงาน TRAFS 2013
โชว์ความสุดยอดอีกครั้งสำหรับทีมเชฟอิมแพ็คภายหลังคว้าชัยชนะจากการประกวดแข่งขันในงาน Thailand Retail, Food & Hospitality Services หรือ TRAFS 2013 ซึ่งเป็นงานแสดงอาหาร เครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีก อันดับ 1 ของประเทศ ด้วยการกวาดรางวัลคะแนนรวมสูงสุด ชนะเลิศรับถ้วยรางวัลถึง 2 ถ้วย พร้อมกับ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง จาก 4 ชนิดการแข่งขัน เมื่อเร็วๆ นี้
เชฟเจอเรมี ลิม บุน เส็ง หัวหน้าพ่อครัวผู้บริหาร ประจำศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ทางทีมเชฟอิมแพ็คได้เข้าร่วมการแข่งขันในงาน Thailand Retail, Food & Hospitality Services หรือ TRAFS 2013 งานแสดงอาหาร เครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีก อันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งได้จัดการแข่งขันทำอาหาร เบเกอรี่ ร่วมด้วยเป็นปีที่ 7 และในปีนี้ อิมแพ็ค ก็ได้ส่งทีมเชฟเข้าประกวดใน 4 รายการ และสามารถคว้ารางวัลมาได้ทั้ง 4 รายการ 
เริ่มต้นด้วยการแข่งขัน ไทยแลนด์ เบสท์ โมเดิล ควีซีน โดยเชฟหนุ่ม ภทร รอดผล เชฟประจำร้านอาหารบิสโตร เดอ แชมเปญ ของอิมแพ็ค ได้ลงแข่งขันทำอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นจำนวน 3 คอร์ส คอร์สละ 3 อย่าง รวมทั้งหมด 9 จาน แข่งขันกับทีมเชฟจากโรงแรม 4 และ 5 ดาว จากในประเทศมากมาย และผลการแข่งขันสรุปเชฟหนุ่มของอิมแพ็คชนะการแข่งขัน ด้วยมีผลคะแนนรวมสูงสุด พร้อมรับถ้วยรางวัลและเหรียญทองมาครอง 
ต่อจากนั้นทีมเชฟเบเกอรี่ของอิมแพ็ค ได้ลงแข่งขันประกวดการตกแต่งเค้ก โดยอิมแพ็คได้แบ่งเป็นสองทีมๆ ละ 2 คน ทีมเอและทีมบี ลงประชันฝีมือกับทีมเชฟเบเกอรี่จากโรงแรมชั้นนำ อาทิ โรงแรมแมนดาริน โอเรนเต็ล, ทวิน ทาวเวอร์, รามา การ์เด้น, โซทวิน และแมริออท เป็นต้น ภายใต้เกณฑ์ตัดสินของคณะกรรมการ ซึ่งแบ่งเป็นความคิดสร้างสรรค์ 30 คะแนน รสชาติ 50 คะแนน และความลงตัว 20 คะแนน ผลการแข่งขันทีมเอคว้าถ้วยรางวัล พร้อมเหรียญทอง และทีมบีได้เหรียญทองแดง สำหรับรายการสุดท้ายเป็นการแข่งขันตกแต่งจานขนม อิมแพ็คได้แบ่งเป็นสองทีมเช่นกัน โดยทีมเอทำผลงานคว้ารางวัลเหรียญเงิน และทีมบีคว้ารางวัลเหรียญทองแดง
เชฟโจ้ ณฤธ์ชัชชัย แผลงสุสิริชัย เชฟผู้มากประสบการณ์ด้านเบเกอรี่มากว่า 20 ปี ในฐานะโค้ชของทีมเชฟ อิมแพ็ค กล่าวว่า ถือเป็นที่น่าพอใจและภูมิใจอย่างมากกับตัวเลขสรุปผลรางวัลของอิมแพ็คที่ได้รับถ้วยรางวัลจำนวน  2 ถ้วย พร้อมกับ  2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง การแข่งขันครั้งนี้ อิมแพ็ค เลือกส่งเด็กใหม่ที่มีฝีมือเพื่อไปลองสนามและหาประสบการณ์ใหม่ๆ จากการแข่งขัน เพื่อเตรียมพร้อมแข่งขันในรายการ Thailand International Culinary Cup หรือ TICC ในเดือนกันยายน ณ ศูนย์แสดงสินค้า ไบเทค บางนา ด้วย รวมถึงเป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของทีมเชฟอิมแพ็คและบริการจัดเลี้ยง อิมแพ็ค แคเทอริ่ง ที่มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นคุณลักษณะเด่นของ อิมแพ็ค ที่มุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพทำงานด้วยใจ คนเยี่ยมอุปกรณ์ยอด สามารถตอบโจทย์ ตรงใจลูกค้านั่นเอง
สื่อมวลชนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด
จินตนา  พงษ์ภักดี โทร: +66 (0) 2833 5061 อีเมล์:  jintanap@impact.co.th
สุภาพร  บุญขาว โทร: +66 (0) 2833 5077 อีเมล์:  supapornb@impact.co.th
เชิญตะวัน จำเริญศักดิ์ศรี โทร: +66 (0) 2833 5067 อีเมล์:  choentawanj@impact.co.th